Tag Archive แคช

Byphunsanit

ใช้ cache ใน YII 2

เวลาทำเว็บยุคปัจจุบันที่ปรับข้อมูลสำหรับ user แต่ละคน แต่ความจริงๆ แล้วแต่ละคนไม่ได้รับข้อมูลที่ต่างกันทั้งหมด บางส่วนก็เหมือนกับคนอื่นๆ ตามเงื่อนไข แทนที่จะ render ใหม่ทุกครั้ง ในระบบขนาดใหญ่ก็นิยมแยกเป็นส่วนๆแล้วใช้ระบบแคช จำส่วนนั้นๆ แทนที่การคำนวณใหม่ สำหรับทุกคน สำหรับทุกครั้งที่มีการเรียกหน้าเว็บ

ใน YII 2 มี cache ให้เลือกทำ Data Caching หลายตัว เช่น APC, file, memcache, memcached, WinCache, XCache, YII2, Zend แต่หลักการเหมือนๆ กันคือ

  1. สร้าง Cache Keys ขึ้นมาให้แยกต่างจากตัวอื่นๆ ในกลุ่ม นิยมใช้ ตัวแปรที่ส่งเข้าฟังก์ชั่นมาเป็น unique ให้ต่างจากตัวอื่นๆ
  2. เช็กดูว่า Cache Keys ตัวนี้มีอยู่รึเปล่า ถ้ามีก็ให้เอา cache มาใช้โดยไม่คำนวณใหม่ ถ้าไม่มีก็สร้างขึ้นใหม่
  3. เพราะว่าข้อมูลบางส่วนอาจจะเก่า หรือใช้ไม่ได้ เช่น มีการเพิ่มข้อมูลเข้ามาใหม่ หรือมีการแสดงวันที่อยู่ข้างใน ระบบแคช จึงมีทางเลือกให้ลบออกตามระยะเวลา expired / invalidated ตามช่วงเวลา yii ใช้หน่วยเวลาเป็น วินาที ตามตัวอย่างใช้ 86400 คือ 1 วัน แสดงว่าทุกๆ วันไฟล์นี้จะโดนลบออกไป
	public function actionIndex($id)
	{

		/* ใช้ cache ตัวไหนเลือกจาก http://www.yiiframework.com/doc-2.0/guide-caching-data.html Supported Cache Storage */

		$cache = Yii::$app->cache;

		/* สร้าง Cache Keys ชื่อ saveName ต่อด้วยตัวแปรที่ส่งเข้ามา มีหลายตัวก็ต่อไปเรื่อยๆ */

		$cacheKeys = 'saveName'.$id;

		/* ดูว่ามีแคชชื่อนี้รึยัง */

		$data = $cache->get($cacheKeys);

		/* ถ้าไม่มีก็สร้างใหม่ใส่ตัวแปร data  */

		if ($data === false) {

		/*
		ถ้าไม่ต้องการ layout ใช้
			$data = $this->renderPartial('index', [
		*/
			$data = $this->render('index', [
				'id' => $id,
			]);

		/* เก็บข้อมูลเข้า cache เวลาถ้าไม่ใส่จะไม่ลบออกตามเวลา */

			$cache->set($cacheKeys, $data, 86400);

		}

		/* ส่ง output ออกไปทั้งจาก cache หรือจากการ render ใหม่ */
		return $data;
	}

ทดสอบดูโดย

  • cacheKey ถ้่าหากตรวจพบว่าไม่ใช้ตัวอักษร alphanumeric โดย function alphanumeric() หรือ ยาวกว่า 32 ตัวอักษร จะถูก hash เป็น string ยาว 32 ตัวอักษร โดยใช้ md5()
  • เมื่อเปิด folder cache เช่น \backend\runtime\cache จะเห็นว่าไฟล์จะถูกสร้างมาใหม่ตามรูปแบบ อักษร 2 ตัวแรกของ cacheKey\cacheKey.bin เปิดดูข้างในจะเป็นข้อมูลที่ถูก เปลี่ยนโดย function serialize() เก็บเอาไว้
  • เปลี่ยนตัวแปรที่ส่งเข้า function ดูว่าถ้าตัวแปรเหมือนเดิมมันจะไม่สร้างไฟล์ใหม่ เว็บเราก็แสดงผลเร็วกว่า ถ้าตัวแปรไม่เหมือนกันก็จะมีไฟล์ถูกสร้างมาใหม่