Category Archive Books

Byphunsanit

สนุกกับเวลา

ครั้งหนึ่ง เพราะเรียนบอกเวลาใช้ AM. / PM. เลยคิดว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่มีการนับเวลาแบบหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง อันนี้เป็นความเข้าใจผิด เพราะว่าประเทศส่วนใหญ่ใช้การนับเวลาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ (ทำไมไม่ทำนาฬิกา 24 ชม. มาขายเยอะๆนะ) อีกอย่างก็คือ นอกจากนับ 12, 24 ชั่วโมงแล้วบ้านเรากับลาวยังมีอะไรแปลกๆ ที่ขนาดคนไทยแต่กำเนิดบางคน (ผม) ยังไม่เคยสังเกตคือเรากับลาว มีการนับแบบ 6 ชั่วโมงพวก ตีหนึ่ง ตีสอง นั่นละครับ

ทีนี้มาถึงเรื่องวันที่กันบ้าง เราเขียนวันที่ใช้ วัน เดือน ปี อเมริกาใช้ เดือน วัน ปี ( ทำเอางงประจำ วันที่ของ boss มันวันหรือเดือน ) ส่วนใหญ่ใช้ ปี เดือน วัน (อันนี้ดูผ่านๆ ก็เห็นเลยว่า อันไหนก่อนอันไหนหลัง) เวลาเขียนโปรแกรมใช้ นับเป็นจำนวนหน่วยวินาทีตั้งแต่ปี 1900 ( 13 กุมพาพันธ์ 2554 เที่ยงคืนพอดีคือ 1297576800 อันนี้ใครเห็นแล้วบอกเวลาได้ คุณควรรีบไปสอบชิงทุนอะไรก็ได้ รับรองติดแน่ๆ ) ระบบที่ผมชอบที่สุดคือ ระบบปฏิทินของฝรั่งเศสสมัยปฎิวัติ มีนักวิทยาสาสตร์ คณิตศาสตร์ เข้าร่วมหลายคนเห็นว่าการนับ 1 สัปดาห์มีเจ็ดวัน ตามจำนวนวันที่พระเจ้าสร้างโลก นะมัน คำนวณยาก (อย่าง ทำงานระหว่างเดือน กุมพาพันธ์ ถึงสิงหาคมมันกี่วัน กี่ชั่งโมงกันแน่) เลยแก้ง่ายๆ ออกกฎหมาย

1 ปี มี 10 เดือน
1 เดือน มี 10 วัน (เงินเดือนออก เร็วทันใช้)
1 วัน มี 10 ชั่วโมง
1 ชั่วโมง มี 100 นาที (ถ้าเป็น 10 นาทีจะสวยมาก)
1 นาที มี 100 วินาที

A FRENCH REPUBLICAN ORMOLU PENDULE PORTATIVE SHOWING BOTH DECIMAL AND DUODECIMAL TIME AND STRIKING DECIMAL TIMEdecimal clockคิดง่ายสุดๆ น่าเสียดายที่ยกเลิกไปแล้ว และไม่มีที่ไหนรับไปใช้ต่อ มีอะไรแปลกๆ อีกเยอะลองอ่านดูนะ เวลาของเรามันไม่เท่ากัน

Byphunsanit

สู้สมศักดิ์ศรี

คนไม่ดูข่าวถามว่าทำไมหงุดหงิดกับที่ไก่อูบอกสู้สมศักดิ์ศรี ประเทศใหญ่ไม่ควรรังแกประเทศเล็ก ก็ถ้าดูข่าวบ้างจะรู้ว่า เขมรใช้ mb21 ส่วนทหารไทยสองสามปีที่ผ่านมาซื้อใหม่ (ของเกรดสอง ของมือ สอง มือสาม ซาก) มาราคาแพงสุดๆ แต่ให้ทหารให้เอาปืนคอไปสู้ ดูกันเอาเองนะครับ ว่าไอ้ที่พวกท่านๆ ที่มุดหัวอยู่กรุงเทพนะมันพูดถูกมัย
ปืน ค. (งานรวมพลฯครั้งที่ 3) อันนี้ของทหารไทยใจกล้า
เขมรมันใช้
ที่มันใช้ยิงโรงเรียน
เหมือนไม้จิ้มฟัน กับปั้งไฟ ของมันยิงได้ 450 กิโลเมตร ของเราแค่ข้ามสระ ต้องไปจ่อไกล้ๆจะเกรงใจอะไรมันนักหนาที่ออกไปรบไม่ใช้คนไทยเหรอ ไม่ใช้เพื่อนร่วมรบ ตายไงก้อช่างที่กะม๊อปแดง ผมเสื้อเหลืองแท้ๆ ยังส่งสารที่โดนยิงกับ m 16 กับ ไอ้แก๊สน้ำตาที่น่าจะเรียกว่าระเบิดหรือห่วงสมบัติ ห่วงบ่อนในเขมรของพ่อมึงระวัง เสื้อเหลือง + เสื้อแดง + ทหารรักชาติ รุมยำเลือกตั้งครั้งที่แล้วผมกะพวก (เด็กตรั่ง + ทุ่งสง ) กาไม่เลือกใคร เพราะพรรคเพื่อแม้วโกง ปชป ก็ล่องลอยด่าเป็นอย่างเดี่ยวครั้งนี้คงได้เห็นบ้านบ้านนายชวนมี ส.ส. พรรคอื่นซะทีถามอีกครั้งให้เอาปืน ค. (เท่ากระกอกข้าวหลาม) ไปสู้กับจรวจเท่าปั้งไฟประกาศสภาวะฉุกเฉิน บอกว่าบอกว่าสู้สมศักดิ์ศรี ประเทศใหญ่ไม่รักแกประเทศเล็กโปรดฟังอีกครั้ง

  1. ปัญญาอ่อนมีปืน แต่เอามีดไปสู้โจร
  2. ห่วงบ่อนพ่อมึงที่ชายแดน
  3. ลูกปืนแพงกว่าค่าทำศพทหาร
  4. ซื่อเครื่องบินรบ รถถัง หมดอายุมาจอด % มันดี
  5. มีกูก็ใช้ไม่เป็น
  6. ยกให้มันไปละ ทั้งอำเภอ รบแหกตาเฉยๆ
  7. ยิงเป็นแต่กับประชาชน มันสู้ไม่เป็นตกลง เพราะอะไรเอย
Byphunsanit

โปเตมาโยะ

การ์ตูนตลกๆ ตอนนี้มักจะวางโครงเรื่องประมาณว่า กลุ่มตัวเอกที่มีการรับรู้ผิดปกติอะไรซักอย่าง และมีพฤติกรรมต่อต้านสังคมนิดๆ เพื่อจะล้อเลียนสังคมจริงๆ อย่างพวกกินดาทาะ หรือคุโรมาตี้ เพิ่งจะเจอเรื่องอารมณ์คันๆ เกี่ยวกับการเห็นเด็กตัวเล็กๆ คลานเตาะแตะ ไม่รู้เรื่อง มาทำเป็นการ์ตูน (ไม่รวมชินจัง เพราเป็นแนวเด็กแก่แดดซะมากกว่า)
โปเตมาเยะ ดุ๊กดิ๊กจอมเขมือบ (หยิบมาอ่านเพราะชื่อนี่ละ) เป็นชื่อของภูติที่อยู่ๆ ก็โผล่มาในตู้เย็น (ทำไม่ต้องตู้เย็นเพราะตัวกลมๆ น่างับรึเปล่า) ในบ้านพระเอกอารมณ์ทึมๆ ไม่ค่อยจะรับรู้อะไร โดนเมินอยู่นานก่อนจะโดนตั้งชื่อโดยย่อมาจาก โปแตโต้มายองเนสที่กินอยู่ซะงั้น เข้าไปอ่านตัวอย่างได้ที่ [TRAN]โปเตมาโยะ ตอนที่ 1 ‘อะไรคือ ‘โปเตมาโยะ’

Byphunsanit

ปริศนาสวนลับ

เรื่องนี้เป็นนวนิยายสืบสวนที่มีเอกลักษณ์ของตนเองในหลายด้าน ตั้งแต่การผูกเรื่องเป็นการตามหาครอบครัวของเด็กสี่ขวบที่ถูกทิ้งไว้ที่ท่าเรือคนเดียว พ่อแม่เด็กหายไปไหน ถ้าจะทิ้งเด็กทำไม่ต้องลงทุนให้เด็กนั่งเรื่อโดยสารจากอังกฤษ พร้อมเสื้อผ้าราคาแพง กระเป๋าหนึ่งใบ และหนังสือนิทานหนึ่งเล่ม การเลือกถ้อยคำบรรยายที่สละสลวย การสร้างบรรยากาศอึมครึมสลับกับโลกที่สดใสจนบางครั้งคิดว่าเป็นหนังสือนิยายตาหวาน

แต่ไม่ใช่ความกลัวสองผัวเมียครอบครัวสวินเดลล์ที่ทำให้เอไลชาตัดสินใจ ไม่ใช่แม้กระทั่งเสียงของแม่ที่ดังก้องอยู่ในความทรงจำของเธอ ขอให้เธอสัญญาว่าจะขายเข็มกลัดก็ต่อเมื่อชายชั่วคนนั้นมาคุกคามเท่านั้น
หากเป็นความกลัวของเธอเองว่าอนาคตอาจเลวร้ายยิ่งกว่าอดีต ว่าอาจมีวันใดวันหนึ่งที่เข็มกลัดกลายเป็นกุญแจสำคัญอย่างเดียวในการเอาชีวิตรอดของเธอ ซุ่มซ่อนอยู่ในเดือนปีอันหม่นมัวที่ยังมามาถึง
เธอกลับหลังโดยไม่ย่างเท้าไปในบ้านคุณพิกนิก และรีบร้อนกลับไปยังร้านขายขวดและของเก่า เข็มกลัดเผาไหม้เป็นรูแห่งความรู้สึกผิดในกระเป๋าเธอ และเธอก็บอกตัวเองว่าแซมมี่ก็เข้าใจ ว่าเขาก็รู้เช่นเดียวกับเธอถึงมูลค่าชีวิตในคุ้งน้ำที่พวกเขาอาศัย
จากนั่นเธอก็พับเก็บความทรงจำเกี่ยวกับเขาอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห่อมันด้วยผืนผ้าแห่งอารมณ์ความรู้สึกหลายชั้น ทั้งความปิติ ความรักและความผูกมัด ซึ่งเธอไม่ต้องการอีกต่อไปและเก็บทั้งหมดอีกต้อไปและเก็บทั้งหมดลั่นดาลไว้ลึกล้ำในใจเธอ เธอรู้สึกว่าการไร้ซึ่งความทรงจำและความรู้สึกเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะการตายของแซมมี่ทำให้ชีวิตของอีไลซาเหลือแค่ครึ่งเดียว เหมือนห้องที่ปราศจากแสงเทียน จิตวิญญาณของเธอเหน็บหนาว มืดมน และว่างเปล่า

เรื่องราวถ่ายทอดผ่านชีวิตของผู้หญิงสามรุ่น และตัวละครที่มีมิติ แต่ละคนมีแรงขับการกระทำของตนในการกระทำต่างๆ ผลักดันตนเองไปสู่จุดทีหวัง ผลักไสคนอื่นๆ ไปโดยเจตนาหรือความหลง
เหมาะกับผู้ชื่นชอบนวนิยายสืบสวนแนวจิตวิทยาหรือรักในหนังสือที่ใช้ภาษาสละสลวย
ผู้แต่ง เคต มอร์ตัน (kate morton)
แปลโดย ศศมากา