Tag Archive installation

Byphunsanit

ติดตั้ง SQL Server Management Studio (smss) แล้วค้าง

ถ้าติดตั้ง SQL Server Management Studio แล้วค้างอยู่ที่ข้อความ “Loading packages. Please wait…” เป็นชั่วโมงไม่ขยับไปไหน แก้ได้โดย

  1. พยาม Cancel ตัวติดตั้งก่อนถ้าทำไม่ได้ให้ end task ไปเลย
  2. ลบไฟล์ทั้งหมดใน temp file
    • โดยใส่ %temp% ใน Windows File Explorer แล้ว enter
    • หรือจะเปิด C:\Users\<username>\AppData\Local\Temp ก็ได้
      จากนั้นลบไฟล์ทั้งหมด ที่สามารถจะลบได้ออกไป
  3. ลบ registry
    • เปิด command prompt โดยสิทธ์ administrator พิมพ์
      reg DELETE “HKLM\SOFTWARE\WOW6432Node\Microsoft\Microsoft SQL Server Management Studio” /reg:32
      กด enter จะเห็นคำถาม
      Permanently delete the registry key HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\WOW6432Node\Microsoft\Microsoft SQL Server Management Studio (Yes/No)?
      พิมพ์ yes แล้ว enter
    • หรือเปิด registry editor โดยสิทธ์ administrator แล้วค้นหา “HKLM\SOFTWARE\WOW6432Node\Microsoft\Microsoft SQL Server Management Studio” จากนั้นก็ลบออกไป
  4. restart windows อาจจะเข้าไปลบไฟล์อีกครั้ง
  5. ติดตั้ง smss ตามปกติ

ขอบคุณ How To Fix SSMS Installation Stuck Issue

Byphunsanit

PowerBuilder 8: ติดตั้ง

จริงๆ แล้ว PowerBuilder 8 ออกมาในปี 2001 มาติดตั้งปีนี้ 2021 ก็ 20 ปีพอดี ถ้าจะนับเป็นคนก็เป็นหนุ่มสาวกันแล้วละ แน่นอนว่ามันไม่ทันกับ windows 10 แน่นอน การลงมันเลยต้องมีการติดตั้งที่พิเศษจากโปรแกรมอื่นๆ

  1. หาตัวติดตั้งมาก่อน หาโหลดไม่ได้แล้วจัดเป็นโปรแกรม classic ที่ใช้ตอนนี้ได้เป็นมรดกมาจากรุ่นพี่ ถ้ามีแล้วจงรักษาเอาไว้ให้ดี
  2. ไปคลิกที่ตัวติดตั้ง C:\PowerBuilder v.8\pb 8.01\Setup.exe
    1. ในหน้า Select Components ให้เอา PowerBuilder, PowerDynamo และ Adaptive Server Anyware ออกไปก่อนเพราะถ้าติดตั้งตอนนี้มันจะค้างที่ 70% ถ้าเจอค้างกด end task ตัวติดตั้งตัวแรกทิ้งไปเลย
    2. ติดตั้งโปรแกรมโดยเลี่ยงทั้ง 3 โปรแกรมให้มากที่สุด restart
    3. ติดตั้งโปรแกรม C:\PowerBuilder v.8\pb 8.01\Setup.exe ใหม่อีกครั้ง คราวนี้เลือกติดตั้งทุกตัว
  3. update โดยติดตั้ง C:\PowerBuilder v.8\PB 8.02\PB802.zip\PB802.exe
  4. update โดยติดตั้ง C:\PowerBuilder v.8\PB 8.03\PB803.zip\PB803.exe
  5. โปรแกรมจะถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้วแต่ว่าคู่มือจะไม่สามารถกด F1 จากตัวโปรแกรมได้ ให้ไปล้วง short cut ออกมาจาก C:\ProgramData\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Sybase\PowerBuilder 8.0\

อ่านเพิ่มเติม https://pitt.plusmagi.com/powerbuilder-8-ภาษาไทย

Byphunsanit

ติดตั้ง Visual Studio offline ไม่ต่อเน็ต

การติดตั้ง Visual Studio แบบไม่ต้องใช้เน็ต ทำได้โดย

  1. ดาวน์โหลดตัวติดตั้งมาจาก https://visualstudio.microsoft.com (ตัวติดตั้งแบบออนไลน์ปกตินั่นละ)
  2. ใช้ command line โหลดไฟล์ติดตั้งทั้งหมดโดย –layout จะระบุตำแหน่งที่เก็บตัวติดตั้งไว้และหวังว่าจะมีที่ให้เก็บข้อมูลพอ (ประมาณ 35 GB เอง)
    ติดตั้งทุกภาษา
    vs_community.exe --layout C:\vs201807
    ติดตั้งภาษาเดียว
    vs_community.exe --layout C:\vs201807 --lang En-us
    ติดตั้งหลายภาษา
    vs_community.exe --layout C:\vs201807 --lang En-us Ja-jp Ko-kr
  3. รอมัน download ไปเรื่อยๆ (เป็นชั่วโมง)
  4. เอา folder ที่ระบุไว้ใน –layout ไปติดตั้ง

ภาษาทั้งหมดที่มี List of language locales

Language-locale
Language
Cs-cz Czech
De-de German
En-us English
Es-es Spanish
Fr-fr French
It-it Italian
Ja-jp Japanese
Ko-kr Korean
Pl-pl Polish
Pt-br Portuguese – Brazil
Ru-ru Russian
Tr-tr Turkish
Zh-cn Chinese – Simplified
Zh-tw Chinese – Traditional

 

อ่านเพิ่มเติม Use command-line parameters to install Visual Studio 2017

Byphunsanit

ลง kali จาก usb

โดยปกติตัว linux จะลงยากกว่า os ระบบอื่น ใครเคยลง windows มาโดยเฉพาะ windows 10 แล้วจะงงกับหน้าจอการติดตั้ง ถึงตอนหลังจะมีการพยามทำหน้าตาเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นก็ตาม แต่ยังยากสำหรับมือใหม่ๆ อยู่ดี

โดยปกติเวลาที่ผมลง linux หรือ windows จะใช้โปรแกรม YUMI – Multiboot USB Creator ทำ usb ให้ติดตั้งแทนแผ่น cd / dvd ได้ (เครื่อง notebook ที่ใช้เครื่องหลังๆ มันไม่มีเครื่องอ่านแผ่นติดมาให้แล้ว แผ่นก็หาซื้อยากขึ้นทุกวัน) แต่ตัว yumi ไม่สามารถทำ usb boot จาก flash drive กับตัว Kali Linux (เพื่อนตั้งชื่อเล่นให้ว่า กาลี ) ได้เขียน image ลงไปแล้วสามารถใช้เป็น linux live cd / live dvd แต่กลับไม่สามามารถติดตั้งโดยใช้เมนู installer ตัวไหนที่มีมากับ iso ติดตั้งจนใช้งานได้จริงๆได้เลย แม้แต่การเขียนลงบนแผ่น DVD จริงๆ ก็ติดตั้งไม่สำเร็จ

ผมทดลองโปรแกรม bootable usb หลายตัวจนเจอ Rufus ที่ทำงานได้สำเร็จ โดยต้องมีการ config แบบพิเศษกันเล็กน้อยโดย

Device
เลือก usb drive เปล่าๆ ที่ต้องการใช้เป็นตัวติดตั้ง kali linux (ข้อมูลข้างในจะโดน format ลบออกไปจนหมด ให้ย้ายไฟล์ที่สำคัญๆ ออกไปก่อนที่จะกดอะไรต่อไป)
Partitition scheme and target system type
เลือกให้ตรงกับระบบของเครื่องที่ใช้ ของผมเลือกเป็น GPT parttion scheme for UEFI
File system
เปลี่ยนเป็น NTFS
Format Option
เลือก Quick format ก็พอ
Create a bootable disk using
เลือก iso และคลิกภาพ cd drive ด้านหลัง browse kali linux ที่โหลดมาจาก Kali Linux Downloads

กด Start ได้เลย จะมี bock ขึ้นมาถาม ให้เลือกWrite in DD Image mode จะทำให้ไม่เจอ message Debootstrap error Failed to determine codename for the release

จากนั้น reboot เครื่องเลือกใน bios ให้ boot จาก usb ถ้าไม่รู้ว่ากดปุ่มไหนดูได้จาก Hot keys for BootMenu / BIOS Settings เครื่องผมกลับต้องเลือก flash drive จาก LEGACY BOOT แทน UEFI BOOT ซะงั้น ลง kali ไปตามปกติ ระวังเรื่อง partion ให้ดี ถ้าไม่อยากลบข้อมูลสำคัญๆ ที่มีอยู่เดิม หลังติดตั้งเสร็จแล้วแก้ปัญหาภาษาไทยเป็นสี่เหลี่ยมโดยใช้คำสั่ง

sudo apt-get install xfonts-thai msttcorefonts

(เกือบลงใหม่ เพราะคิดว่าติดตั้งไม่สมบูรณ์ ดีที่เห็นจากคนอื่นซะก่อน) และถ้ายังใช้ windows เป็นหลักให้อ่าน ตั้งให้เข้า windows แทน linux เสร็จแล้วใช้เจ้า kali อย่างมีสตินะครับ

Byphunsanit

ติดตั้ง composer แบบ manual

ต้องลง composer แต่ไม่มีสิทธิติดตั้งโปรแกรม หรือต้องลงหลายเครื่องๆ การลงแบบ manual จะเร็วกว่า

ติดตั้งโดย

  1. สร้างโฟลเดอร์ ขึ้นมา โดยปกติจะอยู่ที่ C:\ProgramData\ComposerSetup\bin
  2. สร้างไฟล์ composer.bat
     @echo OFF
    :: in case DelayedExpansion is on and a path contains !
    setlocal DISABLEDELAYEDEXPANSION
    php "%~dp0composer.phar" %*
  3. download composer.phar มาจาก Download Composer มา save ไว้
  4. เพิ่ม Path variable ตามวิธี แก้ / เพิ่ม windows environment variables registry
  5. ทดสอบโดยใช้ command
     composer –v

ถ้ายังใช้ไม่ได้ ให้ restart explorer.exe จากนั้นเปิด command line ใหม่ลองเช็คอีกครั้ง จะได้ไม่ต้อง restart windows ใหม่

อ่านเพิ่มเติม

Byphunsanit

ติดตั้ง moodle

  1. ถ้าไม่มี server ให้ Download xampp มาจาก http://Apache Friends
  2. Download moodle มาจาก moodle.org
  3. แตกไฟล์ออกมา ไว้ที่ C:\xampp\htdocs
  4. เปิดเว็บ http://localhost/moodle
  5. เลือกภาษา ผมเลือก Thai (th) กด ต่อไป
  6. ไดเรกทอรีข้อมูล เพื่อความปลอดภัย ให้ไปสร้าง folder ใหม่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้จากเว็บ เช่น D:\moodledata กด ต่อไ
  7. Choose database driver เลือก Improved MySQL (native/mysqli) กด ต่อไป
  8. Database settings ปกติ xampp จะใช้
    • Database host : localhost
    • Database name : moodle ตั้งชื่อตามต้องการหรือตามที่โฮสต์ที่เราเช่าสร้างไว้
    • Database user ใช้ root
    • Database password ถ้าลงใน xampp ปกติจะไม่มีรหัสผ่าน

    กด ต่อไป

  9. หน้าลิขสิทธิสรุปง่ายๆ คือ เราแจกฟรี ดังนั้นถ้ามีปัญหาอะไร ก็ฟ้องทางเราไม่ได้นะ รออะไรอยู่ กด ขั้นต่อไป
  10. ถ้าการทดสอบล้มเหลว ติดต่อ host เลยครับ อย่าลืม save หน้านี้ส่งให้เค้าไปดูด้วย ถ้าผ่าน (มีสีเหลืองไม่เป็นไร) กด ต่อ
  11. ไป

  12. ขั้นตอนนี้จะสร้างตารางในฐานข้อมูล จะนานเป็นพิเศษ ลุกไปชงกาเฟได้ กลับมา กด ต่อไ
  13. ถ้าเจอข้อความ “ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ PHP เซสชั่น ตรวจสอบว่าบราวเซอร์สามารถใช้งานคุ้กกี้” ให้
    1. เปิด phpmyadmin ไปที่ SQL ใส่
      UPDATE `moodle`.`mdl_config` SET `value` = '/' WHERE `mdl_config`.`name` = 'sessioncookiepath';
      UPDATE `moodle`.`mdl_config` SET `value` = '1' WHERE `mdl_config`.`name` = '%sessioncookie%';
    2. ลบทุกอย่างใน D:\moodledata ออกจนหมด
  14. กรอกข้อมูล ใน General ก็พอ แล้วกด update profile เป็นอันเสร็จ
Byphunsanit

ติดตั้ง yii 2 advance ผ่าน composer

YII เพิ่งออกเวอร์ชั่น 2 มาวันที่ 12 ตุลาคม พ ศ 2557 เลยเอามาลองของซักหน่อย ก่อนอื่นให้ลง composer สำหรับติดตั้งตามยุคสมัย (จริงๆ โหลด zip มาแตกเองง่ายกว่าด้วยซ้ำไป ถ้าไม่ต้องการใช้ composer ให้โหลด zip มาแล้วข้ามขั้นตอนที่ 1 ไปเลยครับ)

  1. ก่อนอื่น update เจ้า composer ซะก่อนตามธรรมเนียม รีสตาร์ต เพื่อป้องกันปัญหาเปิด command ออกมาพิมพ์
    composer self-update
    

    ลง composer asset plugin ทำครั้งเดียวไม่ต้องทำอีก

    composer global require "fxp/composer-asset-plugin:1.0.0"
    

    โดยปกติ จะสร้าง yii project ได้โดยคำสั่ง

    composer create-project --prefer-dist yiisoft/yii2-app-basic basic
    

    composer จะ copy ไปไว้ใน folder ชื่อ basic งานที่จะทำเหมาะกับ yii Advanced Application Template มากกกว่า ที่ต่างกันคือ

    • แยก Front- and และ back-end apps ระบบใหญ่ๆ ควรแยกไว้เพื่อความสะดวกที่สำคัญ yii สามารถใช้ configuration และ model ร่วมกันได้ ทั้ง 2 ฝั่ง
    • User model มีระบบ login, User signup and password restore เบื้องต้นติดมาด้วย

    และต้องการให้เก็บใน D:\xampp\htdocs\YiiAdvanced ให้เปลี่ยนคำสั่งเป็น

    composer create-project --prefer-dist yiisoft/yii2-app-advanced D:\xampp\htdocs\YiiAdvanced
    
  2. ปรับสภาพแวดล้อมให้ช่วยเขียน code ได้ง่ายขึ้น
    • ไปที่เราติดตั้ง php ไว้ก่อน พิมพ์
      cd c:\xampp\php
      
    • พิมพ์
      php D:\xampp\htdocs\YiiAdvanced\init
      
    • เลือก Development พิมพ์ 0 enter ขึ้นจริง 1 enter
  3. สร้าง database
    • สร้าง database เปล่าๆ ไว้ก่อน ของผมชื่อ YiiAdvanceDB
    • ไปที่ common/config/main-local.php ใน folder ที่เราสร้างไว้ เพิ่ม database connection ใน components ตามตัวอย่าง
          'components' => [
              'db' => [
                  'class' => 'yii\db\Connection',
                  'dsn' => 'mysql:host=localhost;dbname=YiiAdvanceDB',
                  'username' => 'root',
                  'password' => '',
                  'charset' => 'utf8',
              ],
      
    • Command กลับไปที่เราเก็บ project file
      d:
      cd D:\xampp\htdocs\YiiAdvanced
      
    • พิมพ์
      yii migrate

      ตอบ yes ดูในฐานข้อมูล จะมีตาราง user กับ migrate เพิ่มขึ้นมา

การเตรียมโปรเจ็คด้วยยี่สำเร็จแล้ว! หวังว่าคงเข้าใจมากกว่าในคู่มือเว็บ yii นะครับ

Byphunsanit

ติดตั้ง YII

ลง yii ไม่อยาก ไม่กี่นาทีก็ได้โครงของโปรเจคแล้ว

  1. โหลดตัว framework มาก่อนจาก yiiframework
  2. แตกไฟล์ใส่ htdocs folder ของผมอยู่ที่ D:\xampp\htdocs (ปกติคือ C:\xampp\htdocs)
  3. ถ้าแตกไฟล์เก็บไว้ใน folder D:\xampp\htdocs\yii1 เปิด command พิมพ์
    • d: กด enter
    • พิมพ์ cd D:\xampp\htdocs\yii1\framework กด enter
  4. สร้าง Skeleton Application ถ้าต้องการสร้าง project ชื่อ JumpFlower (คืออะไรหาได้ใน google) เก็บที่ D:\xampp\htdocs\yii1\JumpFlower พิมพ์
    yiic webapp <b>D:\xampp\htdocs\yii1\JumpFlower

    แล้ว enter ตอบ yes รอจนขึ้นข้อความ “your application has been create successfully under …”

  5. เปิดไฟล์ D:\xampp\htdocs\yii1\JumpFlower\protected\config\database.php แก้ เอา comment ออก ใส่ชื่อ database username password ใม่ตามที่ใช้จริง
    <?php
    
    // This is the database connection configuration.
    return array(
    	'connectionString' => 'sqlite:'.dirname(__FILE__).'/../data/testdrive.db',
    	'connectionString' => 'mysql:host=localhost;dbname=yii1',
    	'emulatePrepare' => true,
    	'username' => 'root',
    	'password' => '',
    	'charset' => 'utf8',
    	'tablePrefix'=>'tbl_',
    );

เสร็จ!

Byphunsanit

โหลดโปรแกรมครั้งเดียว!

สมัยก่อนไวรัสชอบติดมาจากอุปกรณ์พวกแผ่น ซีดี แฟลต์ไดร์ต่างๆ เดี่ยวนี้เน็ตเร็วขึ้น มันก็หันมาระบาดทางโปรแกรมที่ใช้ท่องเว็บต่างๆ แทน วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคืออับเดตเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาใช้ แต่บางสถานที่ห้ามดาวน์โหลดไฟล์ เน็ตช้า ร้านเน็ตที่มีเครื่องเยอะๆ จะมาโหลดที่ละตัวคงไม่ไหว หรือเครื่องที่ไม่ได้ต่อเน็ตภายนอกวิธีแก้ปัญหาคือโหลดมาตัวเดียวแล้วลงหลายเครื่องๆ แต่บางโปรแกรม ทำตัวติดตั้งเล็กๆ แล้วบังคับให้ลงทีละเครื่อง เสียเวลาเปลืองพลังงาน จะให้เร็วต้องใช้วิธีพิเศษ

  • IE (internet explorer) 9 รุ่นที่ดีที่สุด เร็วที่สุดในกลุ่มโปรแกรมที่คนนิยมใช้กันมากที่สุดดาวน์โหลดตัวเต็มได้ที่ http://windows.microsoft.com/en-us/internet-explorer/download/ie-9/worldwide
    http://windows.microsoft.com/en-US/internet-explorer/downloads/ie-9/worldwide-languages
  • ตัวเสริมสำหรับเล่นไฟล์มีเดียต่างๆ Adobe® Flash® Player (เล่นเว็บที่มีการเครื่อนไหว) ,Adobe® Reader® (อ่านเอกสาร pdf อ่านข้อ 3 ก่อนครับ ) ,Adobe® AIR ® (บ้านเรายังไม่นิยมไม่ต้องเลือกก็ได้) และ Adobe® Shockwave® Player (ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่ไม่จำเป็นต้องลง) ไปที่
    หรือไปโหลดเฟรตปกติแต่คลิกลิงค์ distribution ด้านขวามือ คลิก Apply to distribute Flash Player เลือกตัวที่ต้องการ เลือก windows ก็จะได้ตัวติดตั้งตามที่เราให้ข้อมูลมา รออีเมล์ที่จะส่งลิงค์มาให้ verified คลิกที่ลิงค์ที่ส่งมา รออีเมล์อีกฉบับที่จะให้โหลดตัวติดตั้งโปรแกรม
  • Foxi reader เป็นโปรแกรมที่แนะนำให้ใช้แทน Adobe® Reader® ขนาดเล็กกว่า ทำงานเร็วกว่า ไม่หนักเครื่อง โหลดได้ที่
    http://www.foxitsoftware.com/products/reader/
  • Google chrome เป็นตัวดูเว็บที่ปลอดภัยและเร็วที่สุดตอนนี้ เอามาได้ที่
    http://www.google.com/chrome/eula.html?standalone=1 จะเล่นแฟล็ชได้เลยไม่ต้องลงเพิ่ม

โน๊ต. โปรแกรมบางตัวมีคนปล่อยลิงค์ให้ดาวน์โหลดตรงไว้แล้ว โหลดง่ายกว่าเอามาจากเว็บผู้ผลิตมาก แต่มักจะเป็นเวอร์ชั่นเก่า หรือแอบใส่ไวรัสมาด้วย

Byphunsanit

การติดตั้ง moodle ขั้นพื้นฐาน

การติดตั้ง Moodle เพื่อสร้างเว็บเพื่อการเรียนการสอนออนไลน์ เป็นเรื่องที่ไม่ยากกว่าการติดตั้ง cms ทั่วๆ ไปอย่าง joomla หรือ Moodle เพียงแต่ต้องมีข้อกำหนดพื้นฐานบางอย่างต่างออกไปเล็กน้อย

    การติดตั้ง Moodle

  1. Download appserv จาก http://www.appservnetwork.com จากนั้นติดตั้งไปตามปกติ
  2. Download version ล่าสุดจาก http://download.Moodle.org/
  3. ระหว่างรอไปสร้าง database เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานโดยเวอร์ชั่น 1.9.9 สามารถใช้ MySQL 4.1.16 ขึ้นไป Postgres 8.0 ขึ้นไปหรือ MSSQL 9.0 or Oracle 9.0 เราจะใช้ MySQL เป็นฐานข้อมูลเพราะ ฟรี ดี ติดมากับ appserv แล้ว (อันนี้สำคัญ) เปิด phpmyadmin พิมย์ชื่อฐานข้อมูลที่ต้องการลงใน Create new database  (สร้างฐานข้อมูลใหม่ ) เลือก COLLATE เป็น utf8_unicode_ci เพื่อให้รอบรับหลายภาษา หรือถ้าสะดวกจะใช้สั่ง
    CREATE DATABASE Moodle;
    ALTER DATABASE Moodle DEFAULT CHARACTER SET utf8 COLLATE utf8_unicode_ci;
    Moodle คือชื่อฐานข้อมูลที่ต้องการจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นก็ได้
  4. แก้ config apache เข้าไปที่ folder c:apacheconf เปิดไฟล์ httpd.conf แก้ AcceptPathInfo เป็น on เพื่อให้สามารถส่งตัวแปรแบบ google friendly ได้ (http://server/file.php/arg1/arg2) ถ้าไม่มีตัวแปรนี้เพราะไม่ได้ลง curl ไว้ก็ให้ข้ามไป
  5. แก้ php.ini ถ้าลง appserv จะอยู่ใน c:windows ส่วน xampp อยู่ที่ xampp/php ตามนี้
    register_globals = 0 ; (บังคับ)
    safe_mode = 0; (บังคับ)
    memory_limit = 40M; (ขั้นต่ำ 40M Moodle ตั้งแต่ version 1.8 เป็นต้นไป ถ้าทำระบบใหญ่ตั้ง 128M )
    magic_quotes_runtime = 0; (บังคับ)
    file_uploads = 1; (หรือมากกว่า)
    session.auto_start = 0; (บังคับ)
    session.bug_compat_warn = 0
    post_max_size = 16M
    upload_max_filesize = 16M (ต้องใหญ่กว่าขนาด scorm ที่จะ upload ขึ้นไป)
  6. แตกไฟล์ ติดตั้ง Moodle โดยเรียก http://localhost/Moodle folder/install.php
  7. เลือก Language เป็น thai (th) กดต่อไป
  8. ตรวจสอบการตั้งค่า PHP ถ้าเสดงสำเร็จให้กดต่อไป ถ้าไม่สำเร็จแสดงว่าติดตั้ง php extension ไม่ครบ (ลง appserv หรือ xampp จะไม่มีปัญหาส่วนนี้)
  9. ระบุที่ตั้งของการติดตั้ง Moodleโดย
    1. ที่อยู่ของเว็บ คือ url ที่ใช้เรียก Moodle
    2. Moodle ไดเรกทอรี คือ folder ที่ติดตั้ง Moodle อันนี้ไม่ต้องแก้
    3. ไดเรกทอรีข้อมูล อันนี้มักเข้าใจผิดกันบ่อย มันคือ folder ที่ไว้เก็บไฟล์ สื่อการเรียนการสอน ที่ upload ไปแต่ละวิชา หรือแตกออกมาจาก SCORM ไม่ใช้ folder เก็บข้อมูลของ database อันนี้ต้องสร้าง folder ใหม่แล้ว copy path มาวางไว้เอง

    กดต่อไป

  10. ตั้งค่าฐานข้อมูล
    1. ประเภท เป็น MySQL
    2. โฮสต์เซิร์ฟเวอร์ เป็น localhost
    3. ฐานข้อมูล ระบุชื่อฐานข้อมูลที่สร้างในขั้นตอนที่ 3
    4. สมาชิก คือ ชื่อ username ที่ใช้ login database
    5. รหัสผ่าน คือ password ที่ใช้ login database
    6. คำนำหน้าตาราง (Table Prefix) คือ ส่วนที่จะแยกตารางฐานข้อมูลของ Moodle ออกจากของตัวอื่นถ้าใช้ร่วมกัน หรือถ้ามี Moodle อยู่แล้วแต่อยากจะให้ แยกกันระหว่างตัวเก่าและตัวใหม่ สามารถแก้คำนำหน้าส่วนนี้ได้ โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษและ _ เท่านั้น

    กดต่อไป

  11. ตรวจสอบเวิร์ฟเวอร์ ถ้ามีการเตือนให้ตรวจสอบ curl ไม่ต้องสนใจ ส่วนประกอบอื่นๆ ถ้าสูงกว่าที่แนะนำถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ กดต่อไป
  12. ดาวน์โหลดไฟล์ภาษา ไทยเพิ่มเติม หรือข้ามไว้กลับมาโหลดเพิ่มเติมจาก http://download.moodle.org/lang16/th_utf8.zip นำไปว่าในไดเรกทอรีข้อมูล/lang ในครั้งหน้า กดต่อไป
  13. ตั้งค่าตัวแปรเสร็จสิ้นแล้ว ตัวติดตั้งจะสร้างไฟล์ config.php ขึ้นมาใหม่ ถ้าลบไฟล์นี้จะสามารถใช้งานตัวติดตั้งได้อีกครั้ง หรืออาจจะสร้างขึ้นมาเองโดยดูตัวอย่างจาก config-dist.php กดต่อไป การติดตั้งก็จะเสร็จสมบูรณ์

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://docs.moodle.org/en/Administrator_documentation