Yearly Archive 2023-08-26

Byphunsanit

WSL: Homebrew install

homrbrew ช่วยให้การติดตั้งบน MacOS และ WSL ทำงานได้ง่ายขึ้น ทำเครื่อง test ง่าย ๆ

  1. ติดตั้ง WSL โดยทำตาม WSL: PowerShell Installing
  2. เพิ่ม admin ใหม่เพราะ brew จะไม่ยอมให้ติดตั้งโดนใช้ user root จะมีข้อความ
    Checking for sudo access (which may request your password)…
    Don’t run this as root!
    ทำตามวิธี
    Linux: create user as root
  3. login โดยใช้คำสั้ง
    su { root username }
    เช่น
    su Lj7kC5VwBAPQ
  4. ไปที่ home directory โดยคำสั่ง
    cd ~
  5. เปิดเว็บไซต์ Homebrew และทำตามขั้นตอนที่แนะนำคือ ใช้คำสั่ง
    /bin/bash -c "$(curl -fsSL https://raw.githubusercontent.com/Homebrew/install/HEAD/install.sh)"
    รอจนขึ้นข้อความ
    Next steps:
  6. จากนั้นใส่ environment variables ตามคำแนะนำด้านล่าง ครั้งละ 1 คำสั่ง เช่น
    (echo; echo 'eval "$(/home/linuxbrew/.linuxbrew/bin/brew shellenv)"') >> /home/{ root username }/.bashrc
    ตัวอย่าง
    (echo; echo 'eval "$(/home/linuxbrew/.linuxbrew/bin/brew shellenv)"') >> /home/Lj7kC5VwBAPQ/.bashrc
    และ
    eval "$(/home/linuxbrew/.linuxbrew/bin/brew shellenv)"
  7. ติดตั้ง package เพิ่มโดยคำสั่ง
    sudo apt-get install build-essential
  8. เทสโดยใช้คำสั่ง
    brew info
    ถ้าตอบมาประมาณ
    0 kegs, 4KB
    แสดงว่าทำงานได้ถูกต้อง

เท่านี้ก็ติดตั้ง brew หรือ homebrew ได้แล้ว ทุกครั้งที่ใช้ brew ต้องเข้ามาที่ user นี้และเรียกใช้จาก path cd ~ และ login ใหม่อีกครั้งโดยใช้ su { root username } ที่ cd ~ เสมอ brew จะถูกติดตั้งอยู่ที่ /home/linuxbrew/.linuxbrew/ ตัว path ของแอปที่ติดตั้งโดย brew จะมี base path ในนี้